มหกรรมฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 เมื่อฟุตบอลไม่ได้เป็นกีฬาผู้ชายอย่างเดียว
หลังจากมหกรรมฟุตบอลโลก 2022 ที่ปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้วในปลายปี เป็นอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ไปได้สำเร็จและจารึกเรื่องราวต่างๆ ให้สามารถเล่าขานไปอีกนาน แม้จะมีกระแสต่อต้านมากมายแต่แล้วฟุตบอลโลก2022ก็ผ่านพ้นไปได้ดี ฟุตบอลโลกในเวอร์ชั่นของ ผู้หญิงกำลังจะเกิดขึ้นกลางปีนี้ เดือนกรกฏาคม 2023 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าจับตามองไม่แพ้ฟุตบอลชาย!!!
ฟุตบอลโลกหญิงเป็นการแข่งขันมาร่วม 32 ปีแล้ว!!!
ฟุตบอลโลกหญิง ( FIFA women’s World Cup ) มีการจัดแข่งขันตั้งแต่ปี 1991 โดยจัดแข่งขันเพียง 12 ชาติเท่านั้นในเวลานั้นการจะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มจำนวนทีมเข้าร่วมการแข่งขันเป็น 16 ชาติในปี 1999 และเป็นเวลาเกือบ 16 ปี ทางฟีฟ่าปรับทีมแข่งขันเป็น 24 ทีมในปี 2015 และเป็นครั้งแรกในปี 2023 รูปแบบการแข่งขันที่ทางฟีฟ่าปรับให้มีการแข่งขัน ครบทั้ง 32 ทีมเทียบเท่าการแข่งขันฟุตบอลโลกของทีมชายในปี2023นี้ โดยแบ่งออกเป็นโซนทวีปดังนี้
- สมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (uefa) 11 ทีม
- สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) 5 ทีม
- สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา (CAF) 4 ทีม
- สมาพันธ์ฟุตบอลคอนคาเคฟ (CONCACAF) 4 ทีม
- สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (CONMEBOL) 4 ทีม
- สมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนีย(OFC) 4 ทีม
- ทีมชาติเจ้าภาพ 1 ทีม
- รายการแข่งขันการเพลย์ออฟ 3 ทีม
ประเทศมหาอำนาจแห่งฟุตบอลหญิงและดาวซัลโวตลอดกาลประจำการแข่งขัน
เป็นที่ทราบดีว่าฟุตบอลโลกหญิง จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 1991 ที่ประเทศจีน นับเป็นเวลาร่วม 32 ปีที่ทุกชาติลงทำการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นเลิศในวงการฟุตบอลแม่เนื้ออ่อน!!! เป็นหญิงแกร่งอย่างทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิงได้มากที่สุด 4 สมัยนับตั้งแต่ปี (1991,1999,2015, 2019 ) ตามมาด้วย หญิงแกร่งอย่างทีมชาติเยอรมัน ที่คว้าแชมป์ได้สองสมัยในปี (2003 , 2007 ) และเป็นหญิงแกร่งจาก นอร์เวย์ และญี่ปุ่น ที่คว้าแชมป์ได้ ในปี 1995 และ 2011 ในส่วนของดาวซัลโวตลอดกาลแข่งขัน มาร์ต้า ยอดหญิงชาวบราซิลทำเอาไว้ 17 ประตู เบอร์จิต พรินซ์ ยอดหญิงชาวเยอรมันทำเอาไว้ 14 ประตูร่วมกับ แอ๊บบี้ เวคบัค ยอดหญิงชาวสหรัฐทำเอาไว้ 14 ประตูเช่นกัน ตามมาด้วย มิเชลล์ เอเคอรส์ ยอดหญิงจากสหรัฐเช่นกัน ทำเอาไว้ 12 ประตู จากตัวเลขสถิติดังกล่าวยังอยู่ยังเป็นตำนานและรอการให้นักเตะแม่เนื้ออ่อนหน้าใหม่มาทำลายสถิติให้จงได้เนื่องจาก อันดับดาวซัลโว ตามแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อยแล้ว
เจ้าภาพการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงปี2023!!!
เป็นธรรมเนียมของมหกรรมฟุตบอลโลก ที่ทางฟีฟ่าเปิดให้แต่ละชาติจาก 7 ทวีปทั่วโลกให้แสดงความจำนงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ในฟุตบอลโลกหญิงหนนี้ มีทั้งหมด 7 ชาติที่เสนอต่อเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันครั้งนี้ และมีการจับมือกันของชาติใกล้เคียงเพื่อยื่นสิทธิ์ของเป็นเจ้าภาพร่วมโดยสองมหาอำนาจของเอเชียอย่างประเทศเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ อีกกลุ่มคือ ประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ เป็นสี่ชาติที่ยื่นมือขอจัดการแข่งขันร่วมกัน ส่วนประเทศที่ยื่นขอเป็นเจ้าภาพที่เหลือ อย่าง โคลัมเบีย , บราซิล และ ญี่ปุ่น ที่ยื่นขอจัดแบบเดียว และการประกาศผลประเทศเจ้าภาพที่จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโดย จานนี่ อินฟาติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติประกาศผลโหวตผู้ชนะฟุตบอลโลกหญิง2023 เป็น ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ ที่ยื่นมือร่วมกันในการเป็นผู้ชนะในการเป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน โดยคะแนนโหวตเสียงข้างมากถึง 18 เสียงคิดเป็น 22 คะแนนจากคะแนนโหวตทั้งหมด 35 เสียง ทิ้งห่างอันดับที่สองอย่าง ประเทศโคลัมเบีย 13 เสียง แม้ว่า ประเทศผู้ท้าชิงอย่างประเทศบราซิล และประเทศญี่ปุ่น จะประกาศขอถอนตัวจากการเสนอชื่อจัดการแข่งขันไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับทวีปทางฝั่งเอเชียแปซิฟิกจะได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ แต่พวกเราจะประกาศให้โลกเห็นสู่สายตาชาวโลกว่า ฟุตบอลหญิงมีการเติบโตและพัฒนามากมายแค่ไหน ” คริส นิโคล ประธานสหพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์หลังได้รับหน้าที่จัดการแข่งขัน และเป็นฟุตบอลในทวีปกึ่งซีกโลกใต้เป็นครั้งแรก!!!
สถานการณ์ทีมที่ผ่านเข้ารอบไปแข่งขันที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว!!!!
ฟุตบอลโลกหญิง 2023 ได้ทีมที่ผ่านเข้ารอบไปทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคมถึง 20 สิงหาคมที่กำลังจะมาถึงในกลางปี 2023 เรียบร้อยแล้วทั้งหมด 29 ทีม!!!! และรอการแข่งขันหาอีกสามทีมจากรอบ เพลย์ออฟให้ครบทั้ง 32 ทีม ในฟุตบอลโลกหญิง2023มีทีมชาติใดเข้ารอบไปแล้วบ้างโดยแบ่งเป็นทวีป มีทีมอะไรกันบ้าง!!!
ทีมชาติเดนมาร์ก , ทีมชาติอังกฤษ , ทีมชาติฝรั่งเศส , ทีมชาติเยอรมนี , ทีมชาติอิตาลี , ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ , ทีมชาตินอร์เวย์ , ทีมชาติไอร์แลนด์ , ทีมชาติสเปน , ทีมชาติสวีเดน , ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์
ทีมชาติออสเตรเลีย(ผ่านเข้ารอบด้วยสิทธิ์เจ้าภาพ) , ทีมชาติจีน , ทีมชาติญี่ปุ่น , ทีมชาติฟิลิปปินส์ , ทีมชาติเกาหลีใต้ , ทีมชาติเวียดนาม
ทีมชาติโมร็อกโก , ทีมชาติไนจีเรีย ,ทีมชาติแอฟริกาใต้ , ทีมชาติแซมเบีย
ทีมชาติอาร์เจนติน่า , ทีมชาติบราซิล , ทีมชาติโคลอมเบีย
ทีมชาติสหรัฐอเมริกา , ทีมชาติจาเมกา , ทีมชาติแคนาดา , ทีมชาติคอสตาริกา
ทีมชาตินิวซีแลนด์(ผ่านเข้ารอบด้วยสิทธิ์เจ้าภาพร่วม)
การประกบคู่รอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลบอลโลกหญิง
การจับสลากประกบคู่การแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง2023 ในรอบแบ่งกลุ่มเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาที่ อาโอที เซ็นเตอร์ เมือง ออคแลนด์ ประเทศ นิวซีแลนด์ โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 กลุ่ม จะมีกลุ่มอะไรบ้าง และทีมไหนคาดการณ์ว่าจะเป็นทีมที่ผ่านเข้ารอบต่อไป!!!!
กลุ่ม A ทีมชาตินิวซีแลนด์ , ทีมชาตินอร์เวย์ , ทีมชาติฟิลิปปินส์ , ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์
เป็นตามปกติที่ กลุ่ม A จะเปิด ทัวร์นาเมนต์ด้วยเจ้าภาพ นิวซีแลนด์ ดูจากชื่อชั้นและอันดับโลกของทีมต้องเป็นทีมจากยุโรปที่ย่อมเป็นต่อในการผ่านเข้ารอบไปได้ จึงคาดว่า จะเป็นบรรดาแข้งเนื้ออ่อนจาก สวิตเซอร์แลนด์และ นอร์เวย์ที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป!!!!
กลุ่ม B ทีมชาติออสเตรเลีย, ทีมชาติไอร์แลนด์ ,ทีมชาติไนจีเรีย , ทีมชาติแคนาดา
อีกหนึ่งกลุ่มที่มีเจ้าภาพอยู่ร่วมสายกับบรรดาทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ในฟุตบอลโลกหนก่อนในปี 2019 ทั้งทีมชาติ นอร์เวย์, ทีมชาติไนจีเรีย, และทีมชาติแคนาดา ทำให้กลุ่ม B ต้องแย่งกันเข้ารอบอย่างแน่นอน
กลุ่ม C ทีมชาติสเปน , ทีมชาติคอสตาริกา , ทีมชาติแซมเบีย , ทีมชาติญี่ปุ่น
เป็นกลุ่มที่น่าติดตามอย่างมากเพราะมีทั้งอดีตแชมป์โลกอย่างทีมชาติญี่ปุ่นและยอดทีมอย่างทีมชาติสเปน ทำให้อาจเป็นการขับเคี่ยวการแย่งแชมป์กลุ่มของทั้งสองทีมแม้ คอสตาริกาและแซมเบียต้องลุ้นกันยากหน่อย!!!!
กลุ่ม D ทีมชาติอังกฤษ , ทีมชาติเดนมาร์ก , ทีมชาติจีน และรอทีมผู้ชนะในรอบเพลย์ออฟ(จากกลุ่ม B )
กลุ่ม D ทีมเต็งอย่าง ทีมชาติอังกฤษย่อมถูกยกให้เป็นทีมที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แม้ว่ายังต้องรอทีมที่กำลังทำการแข่งขันรอบ เพลย์ออฟในช่วงวันที่ 18 – 23 กุมภาพันธ์2556นี้ ทั้ง ทีมชาติชิลี , ทีมชาติเซเนกัล , ทีมชาติเฮติ
กลุ่ม E ทีมชาติสหรัฐอเมริกา , ทีมชาติเวียดนาม , ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ , รอทีมผู้ชนะในรอบเพลย์ออฟ(จากกลุ่ม A) แชมป์เก่าอย่าง สหรัฐอเมริกาทีมที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกถึง 2 สมัยติดต่อกันอย่าง ปี 2015 , ปี 2019 และโอกาสที่จะลุ้นคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง แม้จะมีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ก็ตามและต้องรอทีมทำการแข่งขันรอบ เพลย์ออฟ กลุ่ม A ที่ประกอบไปด้วย ทีมชาติโปรตุเกส , ทีมชาติแคเมอรูน และ ทีมชาติไทย
กลุ่ม F ทีมชาติฝรั่งเศส , ทีมชาติจาเมกา ,ทีมชาติบราซิล ,รอทีมผู้ชนะในรอบเพลย์ออฟ(จากกลุ่ม C)
บิ๊กแมตช์ประจำรอบแบ่งกลุ่มอาจจะโฟกัสไปที่ ทีมชาติฝรั่งเศสและทีมชาติบราซิล น่าจะแย่งกันเข้ารอบแม้ว่าต้องรอทีมทำการแข่งขันรอบเพลย์ออฟ กลุ่ม C ก็ไม่อาจต่อกรได้ ทีมอย่าง ทีมชาติปารากวัย, ทีมชาติไทเป , ทีมชาติปานามา , ทีมชาติปาปัวนิวกินี
กลุ่ม G ทีมชาติสวีเดน,ทีมชาติแอฟริกาใต้ , ทีมชาติอิตาลี , ทีมชาติอาร์เจนติน่า
ทีมชาติสวีเดนอันดับสามในฟุตบอลโลกหนก่อนอยู่ร่วมสายกับทีมชาติอาร์เจนติน่า, ทีมชาติแอฟริกาใต้และทีมชาติอิตาลี จึงมีความเป็นไปได้ว่าทั้งสามทีมในยุโรปจะต้อง ดิ้นรนแย่งกันเข้ารอบแม้จะมีอาร์เจนติน่าควรติดตามมา
กลุ่ม H ทีมชาติเยอรมนี , ทีมชาติโมร็อกโก , ทีมชาติโคลอมเบีย , ทีมชาติเกาหลีใต้
ทีมชาติเยอรมันแชมป์เก่าสองสมัยยังคงเป็นทีมเต็งอยู่เสมอในรอบแบ่งกลุ่ม แม้จะอยู่ร่วมสายทีมชาติ โมร็อกโก , ทีมชาติโคลอมเบีย และเกาหลีใต้ ที่ทั้งสามทีมต้องแย่งชิงกันในการเข้ารอบต่อไป
การขับเคี่ยวของรอบเพลย์ออฟเพื่อตั๋วไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย!!!
ฟุตบอลโลกหญิง ปี2023 ยังต้องหาทีมแข่งขันอีกสามทีม โดยแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม แบ่งเป็น
กลุ่ม A:โปรตุเกส แคเมอรูน ไทย
กลุ่ม B:ชิลี เฮติ เซเนกัล
กลุ่ม C:จีนไทเป ปาปัวนิวกินี ปารากวัย ปานามา
โดยจะทำการแข่งขันในวันที่ 18 – 23 กุมภาพันธ์นี้ โดยทัพชบาแก้วทีมชาติไทยต้องลุ้นอย่างหนัก ที่เส้นทางย่อมลำบากเพราะอุปสรรคก้อนโตอย่าง ทีมชาติโปรตุเกสนั้นเอง หากผ่านเข้ารอบไปด้วย ทีมนักเตะสาวไทยจะเข้าไปอยู่ร่วมกลุ่ม E ที่รวมบรรดายักษ์ใหญ่ในวงการฟุตบอลหญิงอย่างทีมชาติสหรัฐอเมริกา , ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ , และทีมชาติเวียดนาม ที่สร้างประวัติศาสตร์ไปฟุตบอลโลกหญิง ปี 2023หลังเอาชนะ ไชนีส ไทเป 2-1 ในรอบเพลย์ออฟ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565ที่ผ่านมา
สังเวียนการแข่งขันที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์!!!!
เจ้าภาพฟุตบอลโลกหญิง 2023 กำหนดให้มีสังเวียนในการแข่งขันทั้งหมด 10 สเตเดี้ยมโดยแบ่งเป็นการแข่งขันที่ออสเตรเลีย 6 สนาม และ 4 สนามที่นิวซีแลนด์ โดยเป็นการแข่งขันในเมืองใหญ่ทั้งหมด
- สนามกีฬาบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย ความจุรวม: 52,263
โดยจะแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม 5 เกม มีรอบ 16 ทีมสุดท้ายหนึ่งเกมและรอบก่อนรองชนะเลิศ รวมถึงรอบเพลย์ออฟชิงอันดับ 3
- สนามฮินด์มาร์ช สเตเดี้ยม รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ความจุ: 18,435
โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มD กลุ่มF กลุ่มH และการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย
- สนามกีฬาเมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ ออสเตรเลีย ความจุรวม: 30,052
โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มB กลุ่มF กลุ่มH และการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย
- สนาม เพิร์ธ เรคแทงกูลาร์ สเตเดี้ยม ออสเตรเลีย ความจุรวม: 22,225
โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มB กลุ่มD กลุ่มF กลุ่มH
- สนามฟุตบอลซิดนีย์ ออสเตรเลีย ความจุรวม: 42,512
โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มB กลุ่มD กลุ่มH กลุ่มF และการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย
- สนามกีฬาออสเตรเลีย ความจุรวม: 83,500
โดยจะทำการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ พร้อมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
- สนามกีฬาดะนีดิน สเตเดี้ยม เมืองดะนีดิน นิวซีแลนด์ ความจุรวม: 28,744
โดยจะทำการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม 6 เกม ในกลุ่มA กลุ่ม C กลุ่ม E กลุ่ม G
- สนามอิเดน พาร์ค เมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ ความจุ: 48,276
โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม และการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ
- สนามไวกาโต นิวซีแลนด์ ความจุรวม: 25,111
โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่ง กลุ่มA กลุ่มC กลุ่มE กลุ่มG
- สนามกีฬาภูมิภาคเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ ความจุรวม: 39,000
โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม และการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ
การแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง ครั้งที่ ระหว่างวันที่20 กรกฎาคม – 20 สิงหาคม 2566 กลางปีนี้จะเป็นฟุตบอลโลกที่น่าติดตามเช่นกัน
